นักสู้สาวเบอร์หนึ่งของประเทศ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” เจ้าของแชมป์โลก ONE มวยไทยและคิกบ็อกซิ่งคนแรกในประวัติศาสตร์ กำลังจะสานต่อภารกิจคว้าแชมป์โลกเส้นที่ 3 ในวันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2563 ซึ่งมีงานยากรอเธออยู่ตั้งแต่ต้นปี
ยากกว่าการตามล่าเข็มขัดแชมป์โลกอีกเส้นคือ การป้องกันเข็มขัดอีก 2 เส้นให้คงอยู่ด้วย ความกระหายเป็นแรงผลักดันให้ แสตมป์ เดินหน้าเปิดฉากปี 2563 ด้วยการเผชิญหน้าคู่แข่งคนแรกของปีที่มา พร้อมกับดีกรีแชมป์วูซูจากอินเดีย “พูจา โทมาร์” ในศึก ONE: A NEW TOMORROW ซึ่งจะจัดขึ้นที่อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี
พูจา ถือเป็นนักสู้สาวอันตรายที่มาพร้อมสถิติบนสังเวียนวูซู 72 ไฟต์ และในกติกาการต่อสู้แบบผสมผสานชนะ 4 แพ้ 3 ซึ่งเธอผ่านคู่ต่อสู้ระดับแถวหน้ามาแล้วหลายคน โดยครั้งหนึ่งที่เธอเจอกับเจ้าถิ่นสาวชาวอินโด “พริสซิลลา เฮอร์ตาติ ลุมบัน กาโอล์” เธอก็เข้าเส้นชัยปาดหน้าเจ้าถิ่นไปแบบเฉียดฉิว ทำเอากองเชียร์ชาวอินโดถึงกับเงียบกริบ
เธอจึงพกความมั่นใจในการเผชิญหน้ากับเจ้าถิ่นอย่าง แสตมป์ ด้วยประสบการณ์การต่อสู้แบบผสมผสานที่มากกว่า รวมถึงความชำนาญในเกมการจับล็อก ซึ่งทั้งหมดนี้คือความท้าทายครั้งสำคัญของนักสู้สาวชาวไทย
“แสตมป์ไม่เคยประมาทคู่ต่อสู้ พูจาเป็นถึงแชมป์วูซู ดังนั้นเธอน่าจะเก่งด้านการจับเทคดาวน์ เธอคาดเดาได้ยาก เดินเกมเร็ว และเคลื่อนไหวตลอดเวลา”
“เขาน่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่า แสตมป์ มีจุดแข็งที่การยืนสู้ ดังนั้นเขาน่าจะจับเราเทคดาวน์ และลงไปเล่นเกมภาคพื้น แสตมป์ เองก็คงต้องป้องกันตัวเอง และฝึกเรื่องการซับมิชชัน”
“แผนของ แสตมป์ ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ พยายามรักษาเกมยืนสู้ให้ได้ ใช้ศาสตร์มวยไทยที่ถนัด และป้องกันการเทคดาวน์ ถ้าลงไปอยู่ในเกมภาคพื้น ก็ต้องแก้ไขปัญหาตรงนั้น ซึ่ง แสตมป์ ค่อนข้างมั่นใจเกมภาคพื้นของตัวเองเหมือนกัน และรู้ว่า แสตมป์ แข็งแกร่งพอค่ะ”
แสตมป์ เคยโชว์ผลงานการต่อสู้บนพื้นของเธอมาแล้ว ในไฟต์ที่เจอกับ “น็อกเอาต์ควีน” อาชา โรกา ดาวรุ่งอีกคนจากอินเดีย เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเธอพยายามเล่นงานคู่ต่อสู้ด้วยการซับมิชชันหลายครั้ง ทั้งการ armbar และ guillotine choke ก่อนที่จะเผด็จศึกด้วยท่า rear-naked choke ในยกที่สาม
ถ้า แสตมป์ สามารถสานต่อสถิติไร้พ่ายในไฟต์นี้ได้ การเดินหน้าสู่การเป็นผู้ท้าชิงแชมป์โลกในกติกาศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน ก็จะขยับเข้ามาใกล้ทุกที วันศุกร์ที่ 10 มกราคมนี้ตามไปเชียร์เธอกัน ที่อิมแพ็ค อารีน่า
จองบัตรได้ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ หรือรอชมการถ่ายทอดสดทาง ONE Super App และ AIS Play ตั้งแต่เวลา 17.30 น. และทางไทยรัฐทีวีช่อง 32 เวลา 21.30 น.เป็นต้นไป